สังกะสี (Zn)

Zinc (Zn)
สังกะสี

เลขอะตอม 30 เป็นธาตุแรกของหมู่ II B จัดเป็นโลหะ
น้ำหนักอะตอม 65.37 amu
จุดหลอมเหลว 419.5 ํc
จุดเดือด 907 ํc
ความหนาแน่น 7.133 g/cc ที่ 25 ํc
เลขออกซิเดชันสามัญ +2

สังกะสีเป็นโลหะโครงสร้างที่มีความสำคัญเป็นลำดับ 4 รองจากเหล็กกล้า อะลูมิเนียมและทองแดง เนื่องจากสังกะสีมีเลขออกซิเดชันได้เพียงค่าเดียวคือ +2 และขาดสมบัติทั่วไปของธาตุทรานซิชัน ในปัจจุบันจึงไม่จัดสังกะสีเป็นโลหะทรานซิชัน แต่เรียกว่าเป็นธาตุหลังทรานซิชัน (post transition element)

การค้นพบ
มนุษย์ รู้จักนำสังกะสีมาใช้ประโยชน์เป็นเวลาช้านานแล้ว แต่การรู้จักสังกะสีในรูปของโลหะหรือธาตุอิสระเกิดขึ้นหลังมากเมื่อเปรียบ เทียบกับทองแดงและตะกั่ว เพราะในสมัยโบราณมักใช้ สังกะสีในรูปของโลหะ เจือ

เริ่มมีการถลุงและสกัดสังกะสีที่ไม่บริสุทธิ์ในประเทศจีนและอินเดียประมาณปี ค.ศ. 1000 และได้มีการนำสังกะสีที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ (เรียกว่า slab zinc หรือ spelter) เข้าไปยังยุโรปในศตวรรษที่ 17 ซึ่งใน ขณะนั้นยังไม่ได้มีชื่อเป็นทางการสำหรับโลหะนี้และได้มีการเรียกชื่อต่าง ๆ กัน เช่น tutanege, Indian tin, calamine หรือ spiauter

ในปี ค.ศ. 1697 Lohneyes เรียกเชื่อธาตุนี้ว่า "Zink" ซึ่งต่อมากลายเป็น "zinc"

การใช้ประโยชน์
1. ใช้ประโยชน์ในรูปของโลหะเจือ เช่นกับทองแดง (Cu) และอะลูมินัม (Al) ในการผลิตแผ่นโลหะเจือ
2. ใช้เคลือบผิว (galvanizing) เหล็กกล้าเพื่อป้องกันการขึ้นสนิมของเหล็กกล้า
3. ใช้เติมในยางและสี
4. อื่น ๆ เช่น ชิ้นส่วนของรถยนต์ ฟิวไฟฟ้า อะโนดของเซลล์ไฟฟ้า ถ่านไฟฉาย (dry cell) และเตรียมสารเคมีของสังกะสี

ความเป็นพิษ
สังกะสีในรูปธาตุไม่ปรากฎเป็นพิษ และตามความเป็นจริงแล้ว สังกะสีเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของคนและสัตว์ แต่สารประกอบหลายชนิดอาจเป็นพิษ แต่จัดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ เพราะสามารถถูกขจัดออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว สังกะสีในรูปผงอาจติดไฟโดยตนเองและเกิดการระเบิดได้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น